สวทช. โชว์ผลงานวิจัยตอบโจทย์เศรษฐกิจแนวใหม่ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม จัดเต็มในงานประชุมประจำปีครั้งใหญ่ “NAC2019”

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดงานประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2562 หรือ NAC2019 อย่างยิ่งใหญ่ โชว์ศักยภาพผลงานวิจัยและพัฒนาของ สวทช. และเครือข่ายพันธมิตร ภายใต้แนวคิด “ตอบโจทย์เศรษฐกิจแห่งอนาคตไทย ก้าวไกลด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ชูผลงานวิจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

4 มีนาคม 2562 ณ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี:  ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย ดร.สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช. ในฐานะประธานจัดงานฯ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2562 (NSTDA Annual Conference: NAC2019) ที่จะจัดขึ้นวันที่ 25 - 28 มีนาคม 2562  ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล 

ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล กล่าวว่า สวทช. หน่วยงานวิจัยและพัฒนาของประเทศ ผ่านการทำงานของ 4 ศูนย์เทคโนโลยีแห่งชาติ และสนับสนุนให้มีการนำผลงานวิจัยไปใช้ภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs สตาร์ทอัพ เกษตรกร และอุตสาหกรรม เพื่อสร้างขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้ก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลางสู่ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งการงานประชุมวิชาการ NAC2019 ในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “เศรษฐกิจแห่งอนาคตไทย ก้าวไกลด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม”  เพื่อตอบโจทย์ประเทศในการนำ วทน. มาใช้ในทุกภาคส่วน   เพื่อสนองตอบยุทธศาสตร์ของประเทศที่ให้ความสำคัญกับการลงทุนด้าน วทน. เน้นการวิจัยและพัฒนาเศรษฐกิจแนวใหม่ เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ พร้อมทั้งยกระดับศักยภาพของประเทศสร้างความมั่นคง ยั่งยืน

จากยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ได้ให้ความสำคัญกับการลงทุนวิจัยและนวัตกรรมตามแนวทางเศรษฐกิจแนวใหม่ เพื่อตอบโจทย์ประเทศโดยมีเป้าหมายยกระดับศักยภาพของประเทศไปสู่ประเทศที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยมุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจแนวใหม่ ได้แก่ 1) เศรษฐกิจชีวภาพ  (Bioeconomy) มุ่งเน้นใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยีชีวภาพ และต้นทุนความหลากหลายทางชีวภาพที่เป็นจุดแข็งของประเทศเป็นตัวขับเคลื่อน 2) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มุ่งเน้นใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือทิ้งมาเป็นวัตถุดิบเพื่อผลิตผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง 3) เศรษฐกิจ สีเขียว (Green Economy) มุ่งเน้นประหยัดพลังงาน ลดความเสี่ยงที่จะทำให้สิ่งแวดล้อมเสียหาย ตอบสนองการพัฒนาที่ยั่งยืน 4) เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Intelligent Economy) เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อเพิ่มผลผลิต เพิ่มมูลค่าให้แก่สินค้าและบริการ โดยใช้เวลาน้อยลง 5) เศรษฐกิจร่วมใช้ประโยชน์ (Sharing Economy)

เป็นรูปแบบเศรษฐกิจที่ใช้พื้นฐานแนวคิดความร่วมมือและแบ่งปัน ทำให้เกิดรูปแบบสินค้าและบริการใหม่ สร้างรายได้แบบ

พึ่งพากัน และ 6) เศรษฐกิจผู้สูงวัย (Silver Economy) เป็นระบบที่นำความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุพึ่งพาตนเองได้

“สวทช. ได้ปรับกลยุทธ์ตามนโยบายประเทศมุ่งเน้นงานวิจัยใน 10 กลุ่มเทคโนโลยีเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจแบบจับต้องได้และเพื่อตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบด้วย 1) สารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ หรือ Biochemicals ต่างๆ เช่น สารประกอบที่สำคัญในอุตสาหกรรม 2) สารสกัดที่จะนำมาใช้ทำเครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารในกลุ่มสมุนไพร 3) ยาแบบใหม่ที่ใช้กระบวนการสังเคราะห์ทางชีวภาพ 4) การทำวิจัยการแพทย์แบบแม่นยำ (Precision Medicine) ที่จะนำไปสู่การตั้งคลังข้อมูลพันธุกรรม การใช้เทคโนโลยีนาโนในการตรวจและรักษา รวมไปถึงการรักษาโรคแบบจำเพาะบุคคล 5) Medical devices & implants งานวิจัยที่เกี่ยวกับระบบดิจิทัลที่ใช้กับอุปกรณ์ช่วยการผ่าตัด หรือชิ้นส่วนทดแทนอวัยวะต่างๆ 6) Food & feed เป็นกลุ่มที่ศึกษา Functional ingredients ในอาหารคน อาหารสัตว์ และอาหารเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย เช่น อาหารสำหรับผู้สูงอายุ ผู้ป่วย รวมไปถึง Smart packaging แบบต่างๆ ที่จะทำให้อาหารสดอยู่ได้นาน เป็นต้น 7) เกษตรแม่นยำ (Precision agriculture)   8) Mobility & Logistics การศึกษาระบบโครงสร้าง การขับเคลื่อนมอเตอร์ การชาร์จไฟ ระบบควบคุมและให้สัญญาณ รวมถึงต้นแบบชิ้นส่วนรถไฟฟ้ารางเบา 9) พลังงานทั้งการพัฒนาแบตเตอรีแบบแพ็กที่ใช้กับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงวัสดุกับระบบพลังงานทางเลือกแบบต่างๆ เช่น  ไบโอดีเซล เป็นต้น และ 10) Dual-use defense เช่น การพัฒนาเครื่องแจมมอร์สำหรับโดรน และเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิดหรือสารเสพติดต่างๆ เป็นต้น” ซึ่งการจัดงาน NAC2019 นี้จะมีการประชุม/สัมมนาเจาะลึกในประเด็นต่างๆ นิทรรศการการแสดงผลงานวิจัยทั้งจาก สวทช. และเครือข่ายพันธมิตร NSTDA Open House  การเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิจัยและหน่วยงานทดสอบมาตรฐานต่างๆ ของ สวทช. สัมผัสงานวิจัย และสร้างเสริมกระบวนการคิดด้าน วทน. เพื่อก้าวสู่เศรษฐกิจแนวใหม่ สร้างขีดความสามารถด้าน วทน. ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศต่อไป

ดร.สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง

ผู้อำนวยการศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) สวทช.

ดร.สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง ในฐานะประธานจัดงาน NAC2019 กล่าวว่า งานประชุมวิชาการ สวทช. ประจำปี 2562 (NAC2019) จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25 – 28 มีนาคม 2562 ณ อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี โดย สวทช. ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดการประชุมฯ และนิทรรศการในวันที่ 25 มีนาคม   2562 เวลา 09.00-12.00 น. ภายในงานจะมีการสัมมนาที่น่าสนใจจากผู้ทรงคุณวุฒิและอบรมเชิงปฏิบัติการมากกว่า 50 เรื่อง โดยมีทั้งเรื่องราวความรู้ของเศรษฐกิจแนวใหม่ที่ สวทช. ดำเนินการเพื่อตอบโจทย์ของประเทศ อาทิ แนวโน้ม โอกาสและความท้าทายของการวิจัยพัฒนาชั้นแนวหน้า (Frontier Research) เพื่อผสมผสานการวิจัยพื้นฐานร่วมกับการวิจัยประยุกต์ เพื่อสร้างแนวคิดและองค์ความรู้ที่มีศักยภาพไปสู่การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน   Smart Farm นำผลงานวิจัยที่นำไปใช้จริงในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะได้เรียนรู้ประสบการณ์จากเกษตรกรตัวจริงเสียงจริงที่ได้ใช้งาน สูตรตำรับอาหารสัตว์เพื่อนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีนาโน เช่น การปรับปรุงคุณภาพอาหารสัตว์โดยใช้กระบวนการผลิตในระดับนาโนเมตร เพื่อเพิ่มสารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ “นวัตกรรมจากไข่เพื่อการมีสุขภาพที่ดี” เน้นการนำเอา

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มมูลค่าการใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ไข่ “ระบบไซเบอร์กายภาพ กุญแจสู่ Smart Factory” เทคโนโลยีที่จะสื่อสารและทำงานร่วมกันทำให้สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาอัตโนมัติ สานพลังเทคโนโลยี

ยางพารา สร้างอุตสาหกรรม สร้างชุมชน พร้อมเครือข่ายระดับชุมชน สหกรณ์ และอุตสาหกรรม การขอรับรองมาตรฐาน สมอ. การส่งเสริมและผลักดันผลิตภัณฑ์จากผลงานนวัตกรรม สะเต็มศึกษาและวิทยาการคำนวณ : องค์ความรู้และการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์เชิงรุก เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการแสดงผลงานวิจัยจาก สวทช. และเครือข่ายพันธมิตร ซึ่งในวันนี้มีตัวอย่างผลงานวิจัยที่นำมาแสดง ได้แก่ นวัตกรรมน้ำยาง ParaFIT: น้ำยางพาราข้นชนิดใหม่สำหรับการผลิตหมอนและที่นอนยางพารา โดยเอ็มเทค สวทช. ได้คิดค้นนวัตกรรมน้ำยาง ParaFIT (พาราฟิต) เป็นวัตถุดิบในผลิตหมอนและที่นอนยางพาราที่มีคุณภาพดีเพื่อทดแทนการใช้น้ำยางพาราข้นที่ใช้ในปัจจุบันที่มีส่วนผสมของแอมโมเนียเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยางบูดเน่า และช่วยลดเวลาในการบ่มน้ำยางก่อนนำไปใช้งานเหลือเพียง 3 วัน (จากเดิมต้องใช้เวลาบ่มนาน 21 วัน) จึงช่วยลดต้นทุนให้กับผู้ผลิตหมอนและที่นอนยางพารา อีกทั้งยังเป็นมิตรกับคนทำงาน สิ่งแวดล้อม และชุมชน อาหารปั่นผสมสำเร็จรูปสำหรับผู้ที่ต้องได้รับอาหารทางสายยาง โดย ไบโอเทค และ เอ็มเทค สวทช. ได้ร่วมมือกับคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโรงพยาบาลนครนายกพัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตอาหารปั่นผสมสำเร็จรูปที่มีการควบคุมปริมาณสารอาหาร สะอาด เก็บไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน สามารถไหลผ่านสายยางได้ และคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับพลังงานและสารอาหารที่เพียงพอ ช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการเตรียมอาหารปั่นผสม ซึ่งอาจเกิดการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ได้และผู้ดูแลใช้งานได้สะดวกและเก็บไว้ได้นาน เวย์โปรตีนพร้อมดื่ม เก็บได้นาน มีโปรตีนสูง ในปัจจุบันเวย์โปรตีนที่มีจำหน่าย มีหลากหลายรูปแบบ เช่น รูปแบบผงพร้อมชง จึงมีการพัฒนาเครื่องดื่มเวย์โปรตีนบรรจุขวดพร้อมดื่ม แต่ผลิตภัณฑ์ที่วางขายในปัจจุบันมีอายุการเก็บรักษาที่สั้นและต้องเก็บรักษาในตู้เย็น จึงเป็นที่มาขอความร่วมมือระหว่างไบโอเทค สวทช. และบริษัท ตะวันบอตต์แอนด์แคน จำกัด ในการพัฒนาเครื่องดื่มเวย์โปรตีนสูงที่สามารถทนความร้อนโดยที่ไม่จับตัวเป็นก้อน สามารถเก็บรักษาได้นานถึง 6 เดือน โดยไม่จำต้องแช่เย็น อีกทั้งยังมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำลง ด้วยการใช้เครื่องรีทอร์ท นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นยังมีโปรตีนสูงถึง 28 – 30 กรัม ต่อ 350 มิลลิลิตร

และยังได้มีการพัฒนารสชาติของเครื่องดื่มควบคู่กับการพัฒนาตัวผลิตภัณฑ์ ทำให้ได้เวย์โปรตีนที่มีคุณสมบัติเฉพาะและยังมีรสชาติที่อร่อยอีกด้วย ธนาคารทรัพยากรชีวภาพแห่งชาติ (National Biobank of Thailand) เป็นหนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพที่ได้ชื่อว่าไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากแห่งหนึ่งของโลก ก่อให้เกิดการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ ด้านการเกษตรและอาหาร ด้านชุมชนและสิ่งแวดล้อม และด้านส่งเสริมสุขภาพและคุณภาพชีวิต  Kidbright chem kid: เครื่องอ่านสีสารละลายเพื่อการศึกษาทางด้านเคมี โดย เนคเทค สวทช. เครื่องอ่านสีตามความเข้มข้นของสารเคมีในบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีเชิงแสงร่วมกับการเขียน Coding ผ่าน KidBright IDE ซึ่งจะอ่านค่าสีของน้ำที่เกิดจากปฏิกิริยาเคมีของชุดทดสอบกับสารเคมีในน้ำจากบ่อเพาะเลี้ยง ซึ่งเครื่องนี้จะช่วยแก้ปัญหาความผิดพลาดจากการอ่านค่าสีของสารเคมีในน้ำด้วยตาเปล่าที่พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับเกษตรกรกลุ่มผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ผู้ผลิตหรือจำหน่ายชุดทดสอบคุณภาพน้ำ หน่วยงานบริการและตรวจสอบคุณภาพน้ำ ผู้ผลิตสื่อการ

ศึกษา และผู้ประกอบการเทคโนโลยีที่สนใจ ไฮโดรเจลกักเก็บโปรตีนสำหรับอุตสาหกรรมผลิตอาหารสัตว์น้ำ โดย นาโนเทค สวทช. ได้พัฒนาสูตรอาหารเลี้ยงลูกกุ้งแบบไร้ปลาป่น โดยใช้เทคโนโลยีการกักเก็บสารสำคัญในโครงสร้างแบบเจล    มาช่วยเพิ่มความสามารถในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายและยืดอายุให้ไม่เน่าเสียเร็ว เพื่อลดปัญหาของการให้อาหารในสัตว์น้ำ เนื่องจากปัจจุบันปัญหาที่พบคือ สัตว์น้ำในวัยอนุบาลต้องการสารอาหารที่ย่อยง่าย ดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว แต่สารสำคัญหลายชนิดมีความไม่คงตัว มักจะละลายไปกับน้ำเมื่อให้อาหาร นาโนวัคซีนดูดซึมทางเหงือกต้านโรคในปลา นาโนเทค สวทช. ร่วมกับคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พัฒนานวัตกรรมนาโนวัคซีนที่มีคุณสมบัติเกาะติดเยื่อเมือกแบบแช่เพื่อใช้ทดแทนการฉีด สำหรับการควบคุมโรคติดเชื้อในปลานิล จากการออกแบบและสังเคราะห์วัคซีนเชื้อตายจากเชื้อฟลาโวแบคทีเรียม (Flavobacterium columnare) ที่ก่อให้เกิดโรคในปลานิล ในรูปของอนุภาคนาโนที่มีคุณสมบัติในการเกาะติดเยื่อเมือก เพื่อแก้ปัญหาในภาคอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงปลานิลที่ประสบปัญหาโรคระบาดจากเชื้อดังกล่าว ซึ่งการให้วัคซีนในปลาเป็นอีกวิธีหนึ่งเพื่อวางแผนป้องกันไม่ให้ปลาเกิดโรคและมีความจำเป็นอย่างมากในอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในปัจจุบัน สารเคลือบนาโนป้องกันตะกรันบนแผงรังผึ้ง โดย นาโนเทค สวทช. และบริษัท ฮิวเทค (เอเซีย) จำกัด ภายใต้การสนับสนุนทุนวิจัยจากโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (ITAP) ได้พัฒนาสารเคลือบนาโนเพื่อลดการเกาะของตระกรันแคลเซียมบนแผงรังผึ้งที่ไม่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่ดูดซับความชื้นในระบบปรับอากาศแบบประหยัดพลังงานไฟฟ้าด้วยพัดลมไอเย็น 

และจากการทำงานของระบบแผงรังผึ้ง จำเป็นต้องใช้น้ำเป็นตัวหลักที่ทำให้แผงรังผึ้งมีความชื้น แต่เนื่องจากน้ำที่นำมาใช้งานส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมและปศุสัตว์นำมาจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น น้ำผิวดินและน้ำบาดาล มีแร่ธาตุอยู่มาก และไม่สามารถควบคุมคุณภาพน้ำได้ ดังนั้นจึงส่งผลให้เมื่อใช้แผงรังผึ้งในระยะเวลานานจะทำให้เกิดคราบขาวหรือตะกรันขึ้นบนแผงรังผึ้งได้ โดยตะกรันดังกล่าวเกิดจากสารประกอบกลุ่มเกลือแคลเซียมและแมกนีเซียมที่ละลายอยู่ในน้ำ เกิดการรวมตัวกันและตกผลึกเป็นตะกรันเกาะตามพื้นผิวถ่ายเทความร้อนบนแผงรังผึ้ง เกิดเป็นปัญหาการระบายความร้อน ส่งผลให้ประสิทธิภาพของระบบด้อยลงและสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้ามากกว่าปกติ รวมถึงเป็นการลดอายุการใช้งานของแผงรังผึ้งอีกด้วย และเพอร์ริคอล นวัตกรรมทดแทนยาปฏิชีวนะที่ใช้ผสมในอาหารสัตว์ (หมู/ไก่) ผลงานวิจัยของบริษัท เวทโปรดักส์ รีเซิร์ช แอนด์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นภาคเอกชนที่จัดตั้งอยู่ในอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย โดย เพอร์ริคอล เป็นผลิตภัณฑ์ที่ลดการใช้ยาปฏิชีวนะในอาหารสัตว์ที่นำมาสู่ปัญหาเชื้อแบคทีเรียดื้อยาที่เป็นปัญหาทั้งในคนและสัตว์ มีส่วนประกอบจากธรรมชาติที่ช่วยรักษาและลดความเสียหายจากปัญหาท้องเสียที่มีสาเหตุจากเชื้อแบคทีเรียในสุกร นอกจากนี้ยังช่วยฟื้นฟูเซลล์ลำไส้ และการอักเสบของทางเดินอาหาร ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของสุกรและไก่

อีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจและขาดไม่ได้คือ เปิดบ้าน สวทช. (NSTDA Openhouse) การเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิจัยและหน่วยงานทดสอบมาตรฐานต่างๆ ของ สวทช. จะได้พบกับอุปกรณ์และเครื่องมือในการวิจัยที่ทันสมัยระดับโลก โดย สวทช. และประชาคมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย ร่วมเปิดบ้านต้อนรับนักธุรกิจ นักอุตสาหกรรม และนักลงทุนที่สนใจ ได้เยี่ยมชมเทคโนโลยีจากศักยภาพของบุคลากรวิจัยและห้องปฏิบัติการ สวทช. ตลอดจนนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ธุรกิจจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ พร้อมคำแนะนำบริการและมาตรการสนับสนุนภาคเอกชนของ สวทช. ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพและสร้างกำไรให้กับธุรกิจได้โดยไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ www.nstda.or.th/nac หรือ โทร. 0 2564 8000

4 มีนาคม 2562


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai