“โคล้านครอบครัว” โครงการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก “อนุชา” หวังให้สมาชิกกองทุนฯ มีรายได้ และสร้างความั่นคงแก่ครอบครัว

นายอนุชา นาคาศัย
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีกำกับดูแลสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ (สทบ.) จัดทำโครงการโคล้านครอบครัว เชื่อมั่นเป็นหนทางให้เกษตรกรหลุดพ้นจากความยากจน โดยรัฐบาลสนับสนุนให้สมาชิกกองทุนสามารถกู้ยืมเงินตั้งต้นซื้อโคครอบครัวละ 50,000 บาท แบบปลอดดอกเบี้ย ครบปีที่ 3 คืนครึ่งหนึ่งของเงินที่กู้ยืมไป ปีที่ 4 คืนเต็มจำนวน เน้นย้ำไม่ใช่โครงการแจกเงิน แต่เป็นโครงการแจกเครื่องมือทำเงิน เพราะโคเป็นสัตว์เลี้ยงง่าย ไม่จำกัดฤดู และสามารถออกลูกออกหลานให้เกษตรกรสามารถขายลูกโคเพื่อทำเงินได้ตลอดเป็น 10 ปี แค่เริ่มจากโค 2 ตัว และจะเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ รับรองถ้าเลี้ยงดีๆ ใส่ใจดูแลภายใน 3 ปีคืนทุนได้และมีกำไรหลักแสนด้วย

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย
อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ให้สัมภาษณ์พิเศษ ชี้ “การเลี้ยงโค พิสูจน์ได้ว่าเป็นอาชีพเสริมที่เพิ่มรายได้ให้เกษตรกร หากมีการส่งเสริมการเลี้ยงโคที่ถูกวิธี จะสามารถเพิ่มจำนวนโคในปีถัดไป พร้อมสร้างโอกาสให้สามารถทำไร่นาสวนผสมและเลี้ยงปศุสัตว์ควบคู่กันไปได้ ในส่วนของตลาดต่างประเทศและในประเทศ จากสถิติของกระทรวงเกษตรฯ มีการเลี้ยงโคเนื้อมากขึ้น โดยปี 2563 มีการเลี้ยงโคถึง 6 ล้านตัว, ปี 2564 จำนวน 7 ล้านตัว และปี 2565 จำนวน 9 ล้านตัว ซึ่งถือว่าเติบโตมากขึ้นกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ โดยที่เนื้อโคของบ้านเรามีการบริโภคถึง 1.2-1.3 ล้านตัวต่อปี ซึ่งตลาดเนื้อแบ่งเป็น 2 ประเภท คือตลาดเนื้อต่างประเทศและตลาดเนื้อในประเทศ และจะถูกแยกเป็นตลาดเนื้อคุณภาพดีและตลาดเนื้อคุณภาพปกติ โดยธุรกิจร้านอาหารที่มีการบริโภคเนื้อมีหลายระดับ ตั้งแต่เนื้อเกรดพรีเมี่ยมจนถึงเกรดปกติ สังเกตได้จากร้านชาบู ปิ้งย่างที่มีราคาเนื้อต่างกัน และปัจจุบันคนไทยบริโภคเนื้อจากต่างประเทศมากขึ้นแต่ประเทศเราส่งออกน้อยแสดงให้เห็นว่าตลาดในประเทศยังมีความต้องการอยู่ แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มความต้องการบริโภคเนื้อยังคงมีสูง ซึ่งปัจจุบัน ตลาดโคเนื้อคุณภาพปรกติก็มีตลาดรองรับ และถ้าเกษตรกรมีการเลี้ยงโคและเริ่มเข้าใจการเลี้ยงมากขึ้น จนสามารถเลี้ยงโคคุณภาพสูงขึ้นได้ จนทำให้มีเทคนิคการถ่ายทอด เทคนิคการฝึกให้เลี้ยงโคที่มีคุณภาพก็จะสามารถเข้าสู่ตลาดที่พรีเมียม ขายได้ราคามากขึ้น” รศ.ดร.ธนวรรธน์ กล่าว

รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย
อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ด้าน รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีชีวภาพสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี กล่าวว่า “การเลี้ยงโคต้องมีการคัดเลือกพันธุ์และมีกระบวนการเลี้ยงที่ประณีต อาจจะต้องมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อตรวจสอบข้อมูลต่าง ๆ สามารถสรุปและติดตามข้อมูลได้ตลอดเวลา และเพิ่มข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เช่น วิธีการดูแล การทำอาหารเบื้องต้น การปรับปรุงพันธุ์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้การเลี้ยงโคมีคุณภาพมากขึ้น”

นายเกียรติศักดิ์ ทองสุระวิโรจน์
รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากองทุนหมู่บ้านและเสริมสร้างศักยภาพชุมชน

นายเกียรติศักดิ์ ทองสุระวิโรจน์ รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากองทุนหมู่บ้านและเสริมสร้างศักยภาพชุมชน ได้กล่าวว่า “กองทุนฯ จะสร้างรายได้ สร้างอาชีพที่เลี้ยงครอบครัวได้จริง และเชื่อมั่นว่าจะสามารถต่อยอดอาชีพไปได้อีก โดยไม่จำเป็นต้องเลี้ยงโคอย่างเดียว ก่อให้เกิดอาชีพต่าง ๆ ได้ในอนาคต ต้องการให้คนในชุมชนผ่านการฝึกอบรมความรู้เรื่องปศุสัตว์และนำความรู้กลับมาพัฒนาชุมชน เป็นการสร้างชุมชนที่แข็งแรงผ่านการเลี้ยงโค และเป็นจุดเริ่มต้นเพิ่มความมั่งคั่งให้กับชุมชน การเลี้ยงโคเพียงแค่หนึ่งอาชีพ แต่ทำให้เกิดหลากหลายอาชีพ ตามที่เราคาดหวังไว้”

กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โคล้านครอบครัว สามารถเตรียมความพร้อมและสอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ สาขาเขต ทั้ง 13 สาขาเขต ในทุกภูมิภาค และศูนย์ประสานงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองประจำจังหวัด (ทุกจังหวัด)

19 เมษายน 2566


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai