หนุนเกษตรกรเลี้ยงโคขุน 6 เดือน มีรายได้เสริมกว่า 20,000 บาท ดัน “เพชรมุกดา” เป็นโคขุนเกรดพรีเมียมของขบวนการสหกรณ์

สหกรณ์นิคมพิชัยพัฒนา จำกัด หนุนเกษตรกรเลี้ยงโคขุน เป็นอาชีพเสริมจากการทำนา เลี้ยงครึ่งปีเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรกว่า 20,000 บาท ดันวัวพันธุ์ผสมแองกัส-วากิว เป็นแบรนด์โคขุนเกรด  พรีเมียมของขบวนการสหกรณ์ ตั้งชื่อสุดหรู “เพชรมุกดา” 

นางลำเจียก  ลี้ฮ่วน ผู้จัดการสหกรณ์นิคมพิชัยพัฒนา จำกัด จังหวัดอุตรดิตถ์ เปิดเผยว่า จากการที่สหกรณ์ฯ ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรสมาชิกเลี้ยงโคเนื้อในโรงเรือนแบบรวมกลุ่มด้วยวิธีการสหกรณ์ โดยขั้นตอนในการเลี้ยง เกษตรกรสมาชิกจะรวมกลุ่มกันตามความสมัครใจ (กลุ่มละประมาณ 5 -10 คน) เพื่อขอสินเชื่อจากสหกรณ์ในการจัดหาโคเนื้อตามจำนวนที่ต้องการ นำมาเลี้ยงในโรงเรือนที่สหกรณ์จัดเตรียมไว้แล้ว  โดยสมาชิกในกลุ่มจะผลัดกันเข้ามาดูแลเป็นประจำทุกวัน  ในส่วนของสหกรณ์จะเป็นผู้จัดซื้อวัวมาให้เกษตรกรเลี้ยง  สายพันธุ์ที่คัดเลือกเป็นโคขุนเลือดผสมระหว่างสายพันธุ์แองกัส และพันธุ์วากิว สายเลือดประมาณ 50-75 % โดยนำวัวต้นน้ำ (ลูกวัวที่หย่านมแล้ว อายุประมาณ 1 ปี) มาเลี้ยงระยะเวลา 4-6 เดือน ให้เป็นวัวกลางน้ำ ให้ได้น้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม/ตัว ขึ้นไป 

จากนั้นสหกรณ์นิคมพิชัยพัฒนา จำกัด จะขายวัวให้กับชุมนุมสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ที่มีสมาชิกสหกรณ์ที่ส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อใน 16 จังหวัด) เพื่อนำไปกระจายให้สหกรณ์ที่เป็นสมาชิกทำการขุนให้เป็นวัวปลายน้ำ อีกไม่เกิน 12 เดือน เพื่อให้ได้คุณภาพเนื้อและไขมันแทรกตามที่ต้องการ  จากนั้นจึงส่งไปชำแหละขายเป็นเนื้อโคขุนชั้นดีที่โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์เนื้อโคขุน ของสหกรณ์การเกษตรหนองสูง จำกัด จังหวัดมุกดาหาร  หลังจากเลี้ยงวัวกลางน้ำได้ 4-6 เดือน เมื่อได้น้ำหนักตามที่ต้องการ สหกรณ์จะขายวัวและหักเงินกู้ยืมและรายจ่ายอื่น ๆ เกษตรกรจะมีรายได้เหลือหลังจากขายวัวประมาณตัวละ 17,000 – 22,800 บาท  เฉลี่ยแล้วในช่วง 4-6 เดือน เกษตรกรจะมีรายได้จากการเลี้ยงวัวคนละประมาณ 1,800 บาท/เดือน/วัว 1 ตัว และในแต่ละสัปดาห์เกษตรกรจะมีรายได้จากการนำมูลวัวตากแห้งไปขายประมาณสัปดาห์ละ 400-500 บาท หรือประมาณ 1,600-2,000 บาท /เดือน ถือว่าเป็นรายได้เสริมให้เกษตรกรนอกเหนือจากการทำนาที่ดีพอสมควร 

จากที่เริ่มโครงการในปี 2560 มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 25 คน จำนวนวัวที่เลี้ยง 100 ตัว  จนถึงปี 2562 มีเกษตรกรให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการกว่า 50 ราย มีโคเนื้อที่เลี้ยงประมาณ 270 ตัว ในแต่ละปีสหกรณ์จะส่งโคขุนกลางน้ำให้ชุมนุมสหกรณ์เครือข่ายโคเนื้อภาคตะวันออกเฉียงเหนือปีละประมาณ 200 ตัว คิดเป็นมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท แต่เนื่องจากความต้องการบริโภคเนื้อโคขุนคุณภาพดียังมีอีกมาก  สหกรณ์นิคมพิชัยพัฒนา จำกัด จึงมีโครงการขยายการเลี้ยงโคขุนเพื่อป้อนให้สหกรณ์ในเครือข่าย  โดยตั้งเป้าขยายการเลี้ยงและส่งโคกลางน้ำให้เครือข่ายสหกรณ์โคเนื้อภาคตะวันออกเฉียงเหนือปีละประมาณ  300 ตัว ส่วนหนึ่งสหกรณ์จะเป็นผู้ดำเนินการโดยสร้างโรงเรือนเพิ่มและส่งเสริมให้เกษตรกรสมาชิกเลี้ยง  อีกส่วนหนึ่งจะส่งเสริมให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ใกล้เคียงเลี้ยงวัวต้นน้ำเพื่อส่งให้กับสหกรณ์นิคมพิชัยพัฒนา จำกัด นำมาเลี้ยงต่อ  ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับสหกรณ์ในเครือข่ายบ้างแล้ว เช่น สหกรณ์การเกษตรวังชิ้น จำกัด จังหวัดแพร่  สหกรณ์นิคมลานสัก จำกัด  จังหวัดอุทัยธานี  สหกรณ์การเกษตรหนองม่วงไข่ จำกัด  จังหวัดแพร่  นอกจากนี้ยังได้พูดคุยกับสหกรณ์ในเครือข่ายถึงการสร้างโคขุนแบรนด์ของสหกรณ์ เพราะปัจจุบันโรงงานแปรรูปของสหกรณ์การเกษตรหนองสูง  จะแปรรูปเฉพาะวัวสายพันธุ์เลือดผสมแองกัสกับวากิวเท่านั้น (วัวสีดำ) จึงเห็นพ้องกันว่าจะตั้งชื่อสายพันธุ์วัวที่สหกรณ์เลี้ยงและแปรรูปว่า "พันธุ์เพชรมุกดา” เพื่อให้เป็นแบรนด์ของขบวนการสหกรณ์

​​นางเทียมใจ บัวเบิก สมาชิกสหกรณ์นิคมพิชัยพัฒนา จำกัด และเลขานุการคณะกรรมการสหกรณ์ ให้ความเห็นว่า ตนและเพื่อนสมาชิกได้รวมกลุ่ม 5 คน เพื่อเลี้ยงวัวจำนวน 20 ตัว  โดยทำเรื่องขอกู้เงินจากสหกรณ์ คนละ 3.5 แสน เพื่อมาเป็นทุนในการเลี้ยงโคเนื้อ  โดยเลี้ยงในโรงเรือนที่สหกรณ์จัดเตรียมไว้ สมาชิกกลุ่มจะผลัดกันเข้ามาดูแลวัวของกลุ่มวันละ 2 คน  แต่ก่อนที่จะเลี้ยงสหกรณ์จะหาผู้เชี่ยวชาญจากกรมปศุสัตว์มาอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงและการดูแลสุขภาพของวัว  หลังจากทดลองเลี้ยงอยู่ 1 สัปดาห์ จึงให้เริ่มเลี้ยง สมาชิกในกลุ่มจะร่วมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู  ส่วนเรื่องสุขภาพและโรคเกี่ยวกับวัวสหกรณ์จะเป็นผู้ดูแล  หลังจากที่เลี้ยงได้ 4-6 เดือน แล้วนำวัวออกมาขายได้ราคาประมาณกว่า  50,000 บาท/ตัว  หลังจากหักหนี้สินและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ หมดแล้ว  ก็จะมีรายได้เหลือประมาณ 10,000-20,000 บาทเป็นรายได้เสริมนอกเหนือจากการทำนาที่ดีพอสมควร

20 เมษายน 2563


บริษัท มีเดีย เน็ทเวิร์ค จำกัด
138, 140 ซอยอนามัย ถนนศรีนครินทร์ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ 10250
MEDIA NETWORK Co.,Ltd
138, 140 Soi Anamai Srinakarin Road Suanluang Suanluang Bangkok 10250
Tel. 02 721 4417 Fax. 02 721 5516
E-mail : phototechthailand@gmail.com


ติดต่อโฆษณาหรือข้อมูลเพิ่มเติม
โทร. 02 721 4417 , 097 921 2929 คุณขวัญ

แฟนเพจ Phototech Magazine


ออกแบบโดย touronthai